กลับ

DragonKnight
ImperialGuard
Mountains and fjords
Northern Lights
Nature and sunrise
Snowy Mountains
Snowy Mountains
Snowy Mountains
Snowy Mountains
Snowy Mountains
Snowy Mountains
Snowy Mountains
Snowy Mountains

หลังจากที่ Rune Knight ผ่านการทดสอบที่เผ่ามังกรโบราณหยิบยื่นให้
เขาก็ได้รับการอบรมสั่งสอนจากเผ่ามังกรโบราณที่ทำให้สามารถบรรลุระดับที่สูงขึ้นกว่าปัจจุบันได้
และถูกขนานนามว่า Dragon Knight

ตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน เหล่า Royal Guard ได้แสดงให้ผู้คนประจักษ์ถึงพละกำลังอันแข็งแกร่งในสนามรบเมื่อใดที่มีการรบ เมื่อเวลาผ่านไปเช่นนั้น ในที่สุดเหล่า Royal Guard ก็ได้ถูกแบ่งออกเป็นสองพวกใหญ่ ๆ
หากแค่ต้องลองยืนยันดูว่าฝ่ายใดแข็งแกร่งกว่ากันนั้นการประลองระหว่างเหล่า Royal Guard ก็ได้เปิดฉากขึ้น
ผู้ที่ชนะและได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งอย่างแท้จริง จะได้รับชื่อ "Imperial Guard" ไป

เหล่า Mechanic ได้ค้นพบเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนจนถึงตอนนี้
หลังจากผ่านความล้มเหลวมากมาย Mechanic ก็ประสบความสำเร็จในการสร้าง Madogear รูปแบบใหม่
Mado Roid ที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่นั้น ทำให้ Mechanic ที่เคยเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญธรรมดา ๆ
ได้กลายมาเป็นแบบอย่างอันยอดเยี่ยมของเหล่า Mechanic และเลื่อนยศขึ้นมาเป็น Meister

ใน Verus สถานที่อันลึกลึบอันเป็นศูนย์รวมของวิศวกรรมทุกชนิด
Genetic ได้พบกับนักเทคโนโลยีชีวภาพที่ลุ่มหลงในการเนรมิตสิ่งมีชีวิต
จากเหตุการณ์นี้ เขาจึงได้ก้าวข้ามเส้นของชีวจริยธรรม และเริ่มทำการทดสองทางชีวภาพที่ต่างออกไปจากเดิม
นั่นเป็นการถือกำเนิดของ Biolo ผู้นำสิ่งมีชีวิตประดิษฐ์และก้าวไปยังแนวหน้าเพื่อเป้าหมายของตนเอง

ภายในกิลด์ Assasin นั้น มีระดับพิเศษที่ไม่สามารถก้าวขึ้นไปได้ด้วยระดับธรรมดาอยู่
เหล่า Guillotine Cross จำเป็นต้องได้รับพลังของ Elemental Darkness มาครอบครองเสียก่อนจึงจะสามารถบรรลุได้ หลอมรวมพลังแห่งความมืดจาก Elemental Darkness นั้นเข้ากับร่างกายของตน และบรรลุขึ้นเป็น Shadow Cross

หลังจากที่ Doomk ได้ตัดสินใจว่าเหล่า Shadow Chaser เองก็จำเป็นจะต้องได้รับพลังแห่งความมืดมาไว้ในกำมือ
เพื่อที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของศาสตร์ที่ตนเองต้องการเช่นกัน
เขาจึงร่วมมือกับ Mayshell แห่ง Assasin Guild เพื่อติดตามและค้นหา Elemental Darkness
และเหล่า Shadow Chaser ที่ผ่านการทดสอบจาก Advance Elemental Darkness ก็ได้มองเห็นความมืดมิดที่ลึกมากยิ่งขึ้น
นั่นก็คือ Abyss พวกเขาเติบโตขึ้นไปอีกขั้นด้วยการรับเอาพลังแห่งความมืดมา และเรียกตัวเองว่า Abyss Chaser

Warlock ที่บรรลุถึงระดับสูงสุดรู้สึกว่ามีกำแพงที่มองไม่เห็นกำลังขัดขวางทางเดินของเขาอยู่
เขาได้ลองพยายามทุกวิถีทาง ทั้งฝึกฝนร่างกาย ทั้งค้นคว้าเพื่อที่จะหาทางออก แต่ก็ไม่พบเบาะแสแม้แต่น้อย
และเวลาก็ดำเนินต่อไปเช่นนั้นอย่างน่าอึดอัดใจ หลังจากเรื่องน่าปวดหัวมากมายเขาก็ได้พบกับ Egnoloria
ได้รับการสั่งสอนใหม่อีกครั้งหนึ่ง และได้เกิดใหม่เป็น Arch Mage ในที่สุด

Sorcerer ที่ศึกษาเกี่ยวกับธาตุทั้ง 4 และ Elemental มาตลอด ได้พัฒนาความสัมพันธ์กับเหล่า Elemental
จนสามารถสื่อสารกับ Elemental ระดับสูงได้ Sorcerer ได้ใช้ Advanced Scroll ที่ค้นพบในชั้นใต้ดินของ Geffen Tower และลองเรียก Advanced Elemental ออกมา และผลจากการอัญเชิญ ทำให้เขาได้พบกับ Egnoloria Egnoloria รู้สึกสนใจในตัวมนุษย์ ได้เสนอบททดสอบที่เกี่ยวข้องกับธาตุแต่ละอย่างให้ เมื่อผ่านบททดสอบทั้งหมดที่ Egnoloria ได้เสนอให้ระดับความสัมพันธ์กับ Elemantal ของ Socerer ให้เป็นระดับสูงสุดละ Sorcerer ก็ได้กลายเป็น Elemental Master

มีอยู่วันหนึ่ง Arch Bishop คนหนึ่งที่ออกไปปฏิบัติภารกิจที่ Payon Cave ได้ค้นพบ 'Book of Phantom' เข้าเล่มหนึ่ง เนื้อหาที่ถูกบันทึกไว้ใน Book of Phantom หน้าแรกมีความว่า
‘สาวกที่ได้รับพระพรและปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระเจ้าเอ๋ย การที่เจ้าสามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้
เป็นเครื่องหมายว่าความศรัทธาต่อพระเจ้าของเจ้ามีอยู่เปี่ยมล้น.. หากเจ้าแสวงหาหนังสือที่เหลือทั้งหมดอีก 3 เล่มและนมัสการขอบคุณพระเจ้า เจ้าจะได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์อันแข็งแกร่งที่มากขึ้นเสียยิ่งกว่าตอนนี้’
เหล่า Arch Bishop ที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ทั่วโลก
ได้เริ่มแสวงหา Book of Phantom ทั้งสามและบรรลุการเป็น Cardinal ในที่สุด

ครั้งหนึ่ง กลุ่มพระสงฆ์ที่เคยฝึกฝนร่างกายอย่างเคร่งครัด ปรนิบัติรับใช้พระเจ้า
และประกาศเจตจำนงของพระองค์ไปทั่วโลกได้ละทิ้งความคุ้มครองของพระผู้เป็นเจ้า ละทิ้งความเป็นมนุษย์
และเปลี่ยนไปเดินบนเส้นทางของ Sura ซึ่งเน้นการฝึกฝนตนเองอย่างเดียว
แต่จู่ ๆ ก็ได้มีเส้นทางใหม่ปรากฎขึ้นเบื้องหน้าของพวกเขา นั่นก็คือชีวิตที่อุทิศตนเป็น Inquisitor และถวายร่างกายและจิตใจให้แก่พระเจ้าอีกครั้งหนึ่งในเส้นทางของ Sura พวกเขาถอดยูนิฟอร์มเล่นกีฬาที่เก่าคร่ำครึออก
กลับไปสวมชุดบาทหลวงอีกครั้ง และกลายเป็นคมดาบศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าในนามของ Inquisitor
เพื่อที่จะประกาศถึงพลังของพระเจ้าแก่โลกอีกครั้งหนึ่ง

เหล่า Ranger ต่างก็เคยคิดว่าหากเป็นการเอาชีวิตรอด ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะตนเองได้
นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคิดก่อนที่จะถูกปล่อยให้อยู่ลำพังในผืนป่าอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ในคืนก่อนหน้านั้น
ภัยพิบัติจากดินถล่มที่ปิดเส้นทางแคบ ๆ เพียงหนึ่งเดียว ทำให้ Ranger ที่วิ่งเข้ามาในป่าเพียงคนเดียวอย่างไร้ความกลัวรู้สึกตกใจและงุนงง เขาได้ใช้ Falcon และ Warg ซึ่งเป็นเพื่อนคู่ใจราวกับมือและ
เท้าในการสร้างทางออกเพียงหนึ่งเดียวในถนนที่ไร้ทางไปนี้ ความผูกพันที่แข็งแกร่งกับ Falcon
นำไปสู่การพัฒนาสัญชาติญาณที่เหนือธรรมชาติของ Ranger และทำให้เขากลายเป็น Wind Hawk

ในขณะที่ Minstrel และ Wanderer ตระเวนเดินทางไปทั่วและจัดการแสดง ณ เวทีที่พึ่งสร้างใหม่แห่งหนึ่ง
พวกเขาได้พบกับซากอารยธรรมโบราณที่เสียหายไป ในอดีตกาลอันไกลโพ้น
หินที่เหล่านักกวีสมัยโบราณได้บันทึกบทเพลงของโลกที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและ
ผนึกตราไว้ได้พังทลายลงเพราะน้ำมือของมนุษย์และเหล่าบทเพลงที่ถูกบักทึกไว้ในนั้นก็หล่นหายไป Minstrel และ Wanderer คำนับต่อเหล่ารุ่นพี่ในอดีต และออกตามหาบทเพลงของพระเจ้าที่สูญหายไป
เพื่อที่จะผนึกมันและทำให้ร่องรอยอารยธรรมโบราณกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้
บทเพลงโลกของเหล่านักกวีโบราณที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่จึงทำให้ Minstrel และ Wanderer ได้เติบโตขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

ในขณะที่ Minstrel และ Wanderer ตระเวนเดินทางไปทั่วและจัดการแสดง ณ เวทีที่พึ่งสร้างใหม่แห่งหนึ่ง
พวกเขาได้พบกับซากอารยธรรมโบราณที่เสียหายไป ในอดีตกาลอันไกลโพ้น
หินที่เหล่านักกวีสมัยโบราณได้บันทึกบทเพลงของโลกที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและ
ผนึกตราไว้ได้พังทลายลงเพราะน้ำมือของมนุษย์และเหล่าบทเพลงที่ถูกบักทึกไว้ในนั้นก็หล่นหายไป Minstrel และ Wanderer คำนับต่อเหล่ารุ่นพี่ในอดีต และออกตามหาบทเพลงของพระเจ้าที่สูญหายไป
เพื่อที่จะผนึกมันและทำให้ร่องรอยอารยธรรมโบราณกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้
บทเพลงโลกของเหล่านักกวีโบราณที่ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่จึงทำให้ Minstrel และ Wanderer ได้เติบโตขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

  • ค่า AP เป็นส่วนสำคัญเพื่อที่จะสามารถใช้งานบางสกิลของคลาสสี่ได้
  • ทุก ๆ อาชีพจะมีสกิลที่สามารถใช้เพิ่ม AP ส่วนตัวได้อยู่อย่างน้อย 1 สกิล
  • ทุก ๆ อาชีพสามารถเก็บค่า AP ได้สูงสุดเพียง 200AP เท่านั้น
  • เมื่อตัวละครเสียชีวิตหรือเข้าสู่พื้นที่ PVP/WOE จะสูญเสียค่า AP ทั้งหมดทันที

Trait Stats หรือค่าสเตตัสใหม่ทั้ง 6 (POW,STA,WIS,SPL,CON,CRT) ที่จะสามารถเพิ่มขึ้นได้ด้วย trait stat point หลังจากเปลี่ยนอาชีพคลาสสี่ สเตตัสใหม่เหล่านี้ให้ค่าคุณสมบัติใหม่เพิ่มเติมด้วยอีก 6 ประเภท P.ATK, S.MATK, RES, MRES, H.PLUS, C.RATE

  • ทุก ๆ เลเวลหลังจาก 200 จะได้ trait stat point 3หน่วย
  • ทุก ๆ การอัพ Trait Stats จะใช้ 1 trait stat point 1หน่วย
  • ทุก ๆ เลเวลที่หาร 5 ลงตัวจะได้รับ trait stat point 7หน่วยแทน
  • เมื่อผู้เล่นทำการเปลี่ยนอาชีพเป็นคลาสสี่จะได้รับ trait stat point 7หน่วยทันที

รายละเอียด Trait Stats

POW หรือ Power

  • ทุก ๆ 1 POW จะได้รับ Status Atk 5 หน่วย(Atk ตัวหน้าในหน้าต่าง Status)
  • ทุก ๆ 3 POW จะได้รับ P.ATK 1หน่วย

** P.ATK หรือ Physical Power คือ ค่าโจมตีสุดท้ายทางกายภาพเพิ่มขึ้น%

STA หรือ Stamina

  • ทุก ๆ 1 STA จะได้รับ RES 1หน่วย
  • ทุก ๆ 3 STA จะได้รับ RES 5หน่วย

** RES สเตตัสเป็นค่าป้องกันประเภทใหม่ที่คำนวณหลัง Def เดิม (สามารถเพิกเฉยการต้านทานทางกายภาพหรือ RES ได้สูงสุดเพียง 50%)

สูตรคำนวณ
% ดาเมจทางกายภาพสุดท้าย เท่ากับ (2000+RES)/(2000+5*RES)

WIS หรือ Wisdom

  • ทุก ๆ 1 WIS จะได้รับ MRES 1หน่วย
  • ทุก ๆ 3 WIS จะได้รับ MRES 5หน่วย

** MRES สเตตัสเป็นค่าป้องกันประเภทใหม่ที่คำนวณหลัง MDef เดิม (สามารถเพิกเฉยการต้านทานทางเวทมนตร์หรือ MRES ได้สูงสุดเพียง 50%)

สูตรคำนวณ
% ดาเมจทางเวทมนตร์สุดท้าย เท่ากับ (2000+MRES)/(2000+5*MRES)

SPL หรือ Spell

  • ทุก ๆ 1 SPL จะได้รับ Status Matk 5 หน่วย(Matk ตัวหน้าในหน้าต่าง Status)
  • ทุก ๆ 3 SPL จะได้รับ S.MATK 1หน่วย

** S.MATK หรือ Spell Magic Attack คือ ค่าโจมตีสุดท้ายทางเวทมนตร์เพิ่มขึ้น %

CON หรือ Concentration

  • ทุก ๆ 1 CON จะได้รับ HIT 2หน่วย
  • ทุก ๆ 1 CON จะได้รับ FLEE 2หน่วย
  • ทุก ๆ 5 CON จะได้รับ P.ATK 1หน่วย
  • ทุก ๆ 5 CON จะได้รับ S.MATK 1หน่วย

CRT หรือ Creative

ทุก ๆ 1 CRT จะได้รับ H.PLUS 1หน่วย
** H.PLUS คือ ค่าฟื้นฟูสุดท้ายเพิ่มขึ้น% (คำนวณหลังจากการเพิ่มค่าฟื้นฟูปกติ)

ทุก ๆ 3 CRT จะได้รับ C.RATE 1หน่วย
** C.RATE คือการเพิ่มค่า Critical พื้นฐาน%

ตัวอย่าง
เมื่อค่า C.RATE เท่ากับ 0 ตัวละครจะมีค่า Critical พื้นฐานเท่ากับ 140%
เมื่อค่า C.RATE เท่ากับ 10 ตัวละครจะมีค่า Critical พื้นฐานเท่ากับ 150% แทน

ชั้นที่ 4 ของ Rudus สนามเด็กเล่นของร่างทดลองที่ถูกทิ้งร้าง
ซึ่งมีร่างทดลองจำนวนมากที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมกำลังรอนักผจญภัยอยู่

เงื่อนไข

  1. เลเวลตั้งแต่ 200 ขึ้นไป
  2. สำเร็จเควส 17.1 'ฐานที่มั่นใหม่, Rudus' ก่อน

วิธีทำ

  1. เดินทางไปที่ Einbroch Cat on Bullet /navi pub_cat 94/43 เพื่อคุยกับ Julma เพื่อขออนุมัติการผ่านเข้าพื้นที่กับเธอ
  2. เดินทางไปที่ Rudus Floor 3 เพื่อคุยกับ Paian (/navi sp_rudus3 380/42) ก็จะสามารถเข้าไปยังพื้นที่ Rudus Floor 4 ได้
  3. **เมื่อสำเร็จเควสเข้า Rudus Floor 4 แล้วสามารถกลับไปหา Julma เพื่อรับ Daily Quests ได้

สัตว์ประหลาดอมตะมากมายปรากฏตัว กำลังเชิญชวนเหล่านักผจญภัยก้าวเข้าสู่งานรื่นเริงแห่งความตาย

เงื่อนไข

  1. เลเวลตั้งแต่ 200 ขึ้นไป สำหรับ Floor 1
  2. เลเวลตั้งแต่ 240 ขึ้นไป สำหรับ Floor 2

วิธีทำ

  1. เดินทางไปที่ Nifflheim /navi niflheim 149/123 จะสามารถเข้า Niffleheim Dungeon Floor 1 ได้ทันที
  2. สามารถเปิด Daily Quests ได้ด้วยการไปที่ Eden /navi moc_para01 14/19 และคุยกับ Old Scholar เพื่อเริ่มเควส
  3. เมื่อรับเควสจาก Old Scholar แล้วให้เดินทางมาที่ Nifflheim ที่พิกัด /navi niflheim 164/102 เพื่อคุยกับ Haggard Spirit ก็จะสามารถดำเนินการ Daily Quests ได้
  4. **สามารถจบ Quest ของ Old Scholar ได้หลังจากสำเร็จการพูดคุยกับ Haggard Spirit แล้วโดยการกลับไปคุยกับ Old Scholar อีกครั้ง

เหล่าคิเมล่ามากมายปรากฏตัว รอตอนรับผู้มาเยือนที่แข็งแกร่งเพียงพอ

เงื่อนไข

  1. เลเวลตั้งแต่ 215 ขึ้นไป สำหรับ Floor 1
  2. เลเวลตั้งแต่ 230 ขึ้นไป สำหรับ Floor 2

วิธีทำ

  1. เดินทางไปที่ Einbroch Fild /navi ein_fild08 156/96 จะสามารถเข้า Abandoned Lab Amicitia Dungeon Floor 1 ได้ทันที
  2. สามารถเปิด Daily Quests Floor 1 ได้ด้วยการไปที่ Einbroch Cat on Bullet /navi pub_cat 86/33 และคุยกับ Ansuria
  3. สามารถเปิด Daily Quests Floor 2 ได้ด้วยการไปที่ Einbroch Cat on Bullet /navi pub_cat 89/32 และคุยกับ Gerbena
  4. **การเปิด Daily Quest จำเป็นจะต้องสำเร็จเควส Episode 17.1 ก่อน

ระบบ Grade เป็นวิธีใหม่ที่จะเพิ่มคุณสมบัติขั้นต่อไปให้กับอุปกรณ์ของคุณ

ตัวอย่าง

Thanos Bow-AD [2]

เมื่อโจมตีด้วยดาเมจทางกายภาพมีโอกาสเล็กน้อยที่จะฟื้นฟู HP 2500 และ SP 50 ทุก ๆ 1 วินาทีเป็นระยะเวลา 4วินาที.
ทุก ๆ 2 ขั้นอัพเกรด, Atk +10
ทุก ๆ 3 ขั้นอัพเกรด, เพิ่ม Damage สกิล Focused Arrow Strike 5%
เมื่ออัพเกรดตั้งแต่ 7 ขึ้นไป, Critical Damage เพิ่มขึ้น 15% และเพิ่ม Damage สกิล Focused Arrow Strike 10% เพิ่มเติม
เมื่ออัพเกรดตั้งแต่ 9 ขึ้นไป, CRI + 15 และลดระยะเวลาการร่ายแบบแปรผันลง 10%
เมื่ออัพเกรดตั้งแต่ 11 ขึ้นไป, เพิ่ม Damage ทางกายภาพต่อศัตรูทุกขนาดขึ้น 15% และเพิ่ม Damage ทางกายภาพระยะไกลขึ้น 15%

[ความสามารถเพิ่มเติมตาม Grade]
[Grade D] ATK +3%, เพิ่ม Damage สกิล Crescive Bolt 10%
[Grade C] ลด Delay หลังใช้สกิล 5%, P.Atk +1
[Grade B] เพิ่ม Damage สกิล Crescive Bolt 10% เพิ่มเติม

ประเภท: Bow พลังโจมตี: 230
น้ำหนัก: 200
เลเวลของอาวุธ: 5
เลเวลที่ต้องการ: 190
อาชีพ: Ranger Classes

[ความสามารถเพิ่มเติมตาม Grade] นั้นจะได้รับค่าคุณสมบัติทั้งหมดไปจนถึงระดับ Grade สูงสุดที่ทำได้ ณ ขณะนั้น
จากตัวอย่างข้างต้น หาก Thanos Bow-AD [2](Grade B) จะได้คุณสมบัติเพิ่มเติมดังนี้
ATK +3%
ลด Delay หลังใช้สกิล 5%
P.Atk +1
เพิ่ม Damage สกิล Crescive Bolt 20%

**อุปกรณ์อาวุธที่ได้รับการ Grade จะได้ค่า WeaponATK โบนัสเพิ่มเติมตามค่าตีบวกด้วย
WeaponATK ต่อ 1ขั้นอัพเกรดของอาวุธเลเวล 5
No Grade - 8 ATK
Grade D - 8.8 ATK (โบนัส WeaponATK เพิ่มขึ้น 10%)
Grade C - 10.4 ATK (โบนัส WeaponATK เพิ่มขึ้น 30%)
Grade B - 12 ATK (โบนัส WeaponATK เพิ่มขึ้น 50%)
Grade A - 16 ATK (โบนัส WeaponATK เพิ่มขึ้น 100%)

เมื่อมีการ Grade item แล้วอุปกรณ์นั้นจะมีลักษณะเฉพาะที่เปลี่ยนไปอีกด้วย

ผู้เล่นสามารถใช้งาน NPC (Grade Enchanter) Sratos ได้โดยเข้าไปที่ Prontera /navi prontera 50/292

NPC (Grade Enchanter) Sratos
หน้าที่
1.สามารถใช้งานระบบ Grade ได้ผ่าน NPC ตัวนี้
2.สามารถซื้อวัสดุสำหรับการ Grade ได้ผ่าน NPC ตัวนี้

วิธีการ Grade และวัสดุที่ใช้ตามระดับ

เงื่อนไข

  1. เฉพาะอาวุธเลเวล 5 และชุดเกราะเลเวล 2 เท่านั้นที่สามารถ Grade ได้
  2. เมื่อทำการ Grade สำเร็จค่าอัพเกรดจะลดลงเหลือ 0
  3. การ์ดและ Enchant ต่าง ๆ จะไม่สูญหายไปเมื่อทำการ Grade
  4. การ Grade อุปกรณ์จำเป็นต้องทำตามลำดับ D -> A
  5. สามารถเพิ่มอัตราสำเร็จได้ด้วยไอเท็ม Blessed Etel Dust โดยจะเพิ่ม 1% ต่อการใช้งาน
    (สามารถใช้งานได้สูงสุดเพียง 10 ครั้งเท่านั้น)

ระบบ Reform ไอเท็มคือการนำอุปกรณ์เดิม ๆ ที่มีอยู่มาพัฒนาไปอีกขั้นโดยวิธีการดำเนินการในแต่ละอุปกรณ์ก็จะแตกต่างกันไป