แนะนำกสารเล่น

GAME GUIDE

เควสทำอาหาร Cooking Quest

เงื่อนไข: Base Lv.50 ขึ้นไป และต้องสวมใส่ Chef Hat (เมื่อคุยกับ Charl Orleang)
สิ่งที่ต้องใช้ในการทำเควส: วัตถุดิบในการทำอาหารสามารถดูได้จาก PRTWIKI: Cooking ค่ะ
สิ่งที่ได้รับจากการทำเควส: Cookbook01 1 ea, Outdoor Cooking Kits 10 ea, Indoor Cooking Kits 10 ea, Traditional Rice Cake 1 ea
หมายเหตุ: หากเรามีหนังสือและอุปกรณ์ทำอาหารอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำเควสนี้ก็สามารถทำอาหารได้เลยจ้า / เควสนี้ไม่เกี่ยวกับอาหาร Status 20 ซึ่งเป็นของ Genetic ค่ะ

1. ไปยังปราสาทเมือง Prontera เข้าวาปแรกทางซ้ายจะเจอครัว

2. คุยกับ Madelen Shoo เลือก ข้าต้องการเรียนด้วย

3. สวม Chef Hat จากนั้นคุยกับ Charl Orleang เขาจะสุ่มชื่ออาหาร Lv.1 มาให้เรา 1 ชนิด ซึ่งเราต้องไปเตรียมวัตถุดิบมาให้

  1. เมื่อนำวัตถุดิบดังกล่าวมา เขาจะสาธิตการทำอาหารให้ดู (จะได้รับอาหารชนิดนั้น100%)
  2. คุยกับ Madelen Shoo อีกครั้ง เธอจะให้ Cookbook01 และ Outdoor Cooking Kits 10 ea (นอกจากนี้เราสามารถมาซื้ออุปกรณ์ทำอาหารกับเธอได้แล้ว)
  3. ทำอาหาร Lv.1 ให้ครบทุกชนิด โดยแต่ละชุดประกอบด้วย…

  1. คุยกับMadelen Shoo เลือกได้โปรด ตัดสินการทำอาหารของข้าที เธอจะแพ็คอาหารให้เป็น Food Package เพื่อนำไปให้เพื่อนเธอช่วยตัดสิน
  2. นำ Food Package ไปให้ Village Servant ใน Payon พิกัด 209, 127 เลือก ข้ามีบางอย่างจาก Prontera มาให้ท่าน จากนั้นเขาจะให้ Traditional Rice Cake 1 ea

  1. กลับไปหาMadelen Shoo จะได้รับIndoor Cooking Kits 10 ea

*หลังจากนี้เราสามารถคุยกับ Charl Orleang เพื่อแลกเปลี่ยน Cookbook ในช่วง Lv.1-5 (ต้องนำเล่มเดิมไปคืนด้วย ดังนั้นเก็บให้ดีๆนะ) ส่วน Lv.6-10 สามารถหาได้จาก Monster ค่ะ*

ของแถม บางคนอาจจะคุ้นๆชื่อเชฟคนนี้ เรามีนิยายของเซฟ Charles Orleans(ชื่อในเควสน่าจะเพี้ยนไปหน่อย)มานำเสนอค่ะ ซึ่งปกติสามารถอ่านได้จากหนังสือ Chef King Orleans Vol.1 ที่ดรอปจาก Cookie ตัวสีเขียว

Chef King Orleans Vol.1

  Hide Spoiler

Master Chef Orleans

วันที่ XX เดือน XX : การแข่งขันทำอาหารที่พระราชวัง Prontera

Charles Orleans, ชายวัย 17 ปี
เขามาจาก Payon มาอาศัยอยู่ในเมืองหลวงด้วยระยะทางอันแสนไกล เพื่อที่จะเข้าแข่งขันทำอาหารในพระราชวัง Prontera ในไม่กี่วันข้างหน้า

“Gee wilikers เมืองนี้ใหญ่เป็นบ้าเลย! ไปกันเถอะ PiPi!”

อืม คุณอาจสงสัยในคำพูดบางคำในบทสนทนาที่บอกว่า “Gee wilikers ” หรือชื่อหมาของเขา PiPi ไหม? เขาเป็นตัวละครหลักในการ์ตูนยอดนิยมในหมู่วัยรุ่น ซึ่งเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเหมือนกัน

“โอ้ ดูสิว่าใครมา? เจ้าใช่ Charles Orleans ไหม?”
“โอ้ Mr. Andrei!”

อีกครั้งที่เป็นบทสนทนาจากการ์ตูน: ตัวละครหลักของเรื่องพบเพื่อนเก่าทันทีที่เดินเข้าสู่เมือง คนเหล่านั้นล้วนแต่ชื่อเจ๋งๆ เช่น Richter, Trevor, Grant, หรือ Julius เสียดายที่เราใช้ชื่อ Andrei แต่ก็ไม่ได้มีคำอธิบายอะไรที่ชัดเจน

“โอ้ว เป็นปีแล้วใช่ไหมเนี่ย? เจ้าก็เข้าแข่งทำอาหารด้วยเหรอ? พ่อครัวมีฝีมือทั่วโลกจะมาร่วมงานนี้ แต่ข้าคิดว่าเจ้ามีโอกาสนะ! ตั้งแต่เด็กแล้วเจ้าก็ทำอาหารเก่งมาตลอด!”

คุณเห็นนั่นไหม? คุณเห็นไหมว่าอะไรเพิ่งเกิดขึ้น? ชายคนนี้พิเศษ เขารู้ว่าเขาควรทำอะไร เขารับหน้าที่เปิดเผยภูมิหลังของตัวละครหลัก และเหตุการณ์นี้ก็เป็นส่วนช่วยทำให้เขาได้มีโอกาสพูดออกมา แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ Andrei ก็ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อส่วนนี้ แต่ก็น่าแปลกที่ทำไมเขาถึงรู้ว่า Charles Orleans มาทำอะไรที่เมือง Prontera: มันก็คือส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องทั้งหมด

“ใช่ ข้าต้องการมาเพื่อเป็นพ่อครัวประจำพระราชวัง!”

ใช่ ใช่ ตัวละครหลักจะต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งเป็นตัวละครประเภทหนึ่งของเรื่อง มันคงจะดีถ้าให้เขาเป็นคนที่ขี้กลัวหวาดระแวง แน่นอนว่าคนทั่วไปก็คงไม่สนใจชายคนนี้ และก็คงจะไม่ถามเรื่องการแข่งขันทำอาหารเมื่อเจอกันครั้งแรกด้วย…

“ชายหนุ่มคนนั้น? พ่อครัวของพระราชวังใช่ไหมนั่น?”
“เป็นไปไม่ได้… เขาไม่เคยทำแบบนี้!”
“เขายังเด็กอยู่เลย ไม่ห่างจากลูกชายข้าสักเท่าไหร่!”
“ประเทศคลั่งฟักทองและคลั่งความคิดแปลกๆ…”
“ฮาๆ! เจ้าแน่แค่ไหนกันที่จะทำตามความฝันของเจ้า! เลิกฝันเถอะ กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวดีกว่า!”

เสียงของหัวหน้ากองทหารก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงซุบซิบต่างๆ ใช่แล้วมันเป็นเวลาที่ข้าศึกกำลังจะบุก!”

“ฮึม”

พวกเขามักจะให้ตัวเองดูดีด้วยการพูดเหยียดหยามคนอื่น งั้นเหรอ?

“ฮึม มันคงทำให้ข้าแปลกใจมากถ้าเจ้าผ่านรอบแรกได้… Orleans”

ในระหว่างที่กำลังหาที่มาของต้นเสียง ทันใดนั้น –วูบบบบ!– แสงไฟฉายจ้าและพิณที่สวยงามก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่สูงกว่าปกติประมาณ 1.3 เท่าของเด็กทั่วไป

ตัวละครเด็กผู้ชายที่สูงและหน้าตาดีมักจะมีความสัมพันธ์ต่อตัวละครหลัก ส่วนมากมักจะเป็นเพื่อนสนิท ในเรื่องราวของวัยรุ่นคุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ของตัวละครได้ด้วยอายุ เพศและหน้าตา ส่วนคนที่แก่กว่าก็มักจะเป็นพ่อหรือพี่ชายหรือเพื่อนรักของพ่อเป็นอย่างน้อย ส่วนหญิงสาวก็มักจบลงด้วยการพบรักกับพระเอก แม้ว่าเริ่มด้วยการเป็นศัตรูกัน ยกเว้นหญิงสาวคนนั้นไม่สวย : ส่วนผู้ชายที่หน้าตาไม่ดีมักจะเป็นศัตรูของพระเอกและจบลงด้วยการถูกพระเอกฆ่า

อย่างไรก็ตามคู่แข่งปรากฏตัวแล้วและ Orleans ก็

“Kiel? Kiel นี่เจ้าจริงๆ เหรอ? ข้าคิดว่าเจ้าตายแล้ว!”

ในขณะเดียวกัน คนทั่วไปก็เริ่มพูดคุยกันเองทำให้เรามีเวลาพูดคุยถึงความเป็นมาของ Kiel

“Kiel? เขาจะกลายเป็นตำนาน Kiel ไหม?”
“Kiel? ใช่พ่อครัวหลวงที่อายุน้อยสุดใช่ไหม?”
“ได้ยินว่าไม่เคยมีใครรอดจากการแข่งทำอาหารกับเขา! พวกเขาเรียกกันว่าพ่อครัวปีศาจ!”
“ไม่ใช่หายสาบสูญไปกับโศกนาฏกรรมเมื่อปีก่อนหรอกหรือ?”

จากนั้น Kiel ก็เริ่มคุกคามพระเอกด้วยบทสนทนา

“ฮึม! สิบปี่ผ่านไปเจ้าก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ Orleans!”
“K-Kiel…!”
“เจ้าจะแพ้การแข่งขันครั้งนี้เพราะผู้ชนะคือข้า! เลิกล้มตอนนี้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสจะดีกว่า!”

แม้ว่าคำพูดจะรุนแรง แต่ Orleans ก็ไม่แสดงอาการโกรธแค้นมากมายเพราะเป็นตัวละครพระเอก แน่นอนเพราะเขาเป็นคนดีจึงไม่คิดคำพูดมาโต้เถียง

“นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? ที่เจ้าโกงจนได้เป็นพ่อครัวหลวง?! บอกมาสิว่าเป็นเรื่องโกหก Kiel!”
“เฮอะ ข้าไม่สนใจหรอก แค่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็พอ”

พวกเราต้องการให้เชื่อว่า Kiel เป็นคนไม่ดีเพราะด้วยลักษณะของตัวละคร แต่จะให้ค่อยๆ รู้เรื่องเกี่ยวกับการชนะการแข่งขันในครั้งนั้น รายละเอียดในอดีต บางทีอาจเป็นเรื่องของการเสียคนรักไป ในบางทีเราอยากเปิดตัว Kiel ให้เก่งกว่าพระเอกอย่างน้อยก็ก่อนที่พระเอกจะผ่านการฝึกฝน

“ไม่ว่าข้าจะชนะด้วยวิธีใดก็ตาม ประเด็นอยู่ที่ผู้ชนะ คือ เจ้าหรือข้า?”
“Kiel!”
“ถ้าเจ้าไม่ยอมรับเรื่องที่ข้าเป็นพ่อครัวหลวงที่เก่งกว่า ก็พิสูจน์ด้วยตัวเองสิ ข้าหวังว่าจะได้เจอเจ้าในการแข่งสามวันข้างหน้าถ้าเจ้ายังอยู่ถึงนะ หึหึ เจ้าจะเอาเมนูอะไรมาชนะข้าได้? Hahahahahaha!”

ทุกคนมักจะเกรงกลัวและไม่ชอบนิสัยของ Kiel เช่นเดียวกับ Orleans และ PiPi หมาของเขา ตอนนี้ไฟในการต่อสู้ของ Orleans ได้ลุกโชนขึ้นแล้ว

ฉากต่อไป พวกเรามาอยู่ที่ห้องของ Kiel เขาอยู่คนเดียวและมองออกไปนอกหน้าต่าง มือถือแก้วไวน์เอาไว้ ถึงแม้จะอายุเพียง 17 แต่ดื่มได้เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น

“Orleans… ข้อรอคอยเวลานี้มานานแล้ว เจ้าเป็นคนเดียวที่เป็นคู่แข่งของข้า ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะเป็นสุดยอดพ่อครัวได้ถ้าไม่ชนะเจ้าก่อน สามวัน… มันช่างยาวนานนัก อาหารที่เจ้าทำมันเกิดมาจากจิตใจที่สะอาด แต่ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงพลังของอาหารที่เกิดจากความโดดเดี่ยว!”

ตอนนี้เราให้ Kiel และ Orleans มีฝีมือในการทำอาหารเท่ากัน: มันเป็นแค่เรื่องความคิดที่ดีที่สุดในครัวเท่านั้นยังคงมีคำถาม : Kiel หมายถึงอะไรกับพลังจากความโดดเดี่ยว? อีกครั้งที่ตัวละครดูน่ากลัว แต่นั่นก็ทำให้เรื่องราวดำเนินต่อไปได้

ตัดฉากกลับมาที่ Orleans ที่กำลังกลัดกลุ้มเหมือนตัดสินใจบางอย่างอยู่

“ปลา? เนื้อ? ผัก? ไม่ๆ นั่นธรรมดาไป ข้าคงไม่ชนะแน่ถ้าใช้แค่ส่วนผสมแค่นั้น แล้วจะทำอะไรดีนะ?”

ทันใดนั้นก็มีเสียงตอบกลับมา

“เจ้าอยากได้เมนูพิเศษสำหรับการแข่งนี้เหรอ?”

Orleans หันไปมองที่มาของเสียง เขาก็พบชายแก่ยืนถือขวดเหล้าไว้ในมือ

“ผู้เฒ่า… ท่านเป็นใครเหรอครับ?”
“เมื่อห้าสิบปีก่อน มีเด็กหนุ่มที่มีความสามารถด้านการทำอาหารและก็ชนะการแข่งพ่อครัวหลวงด้วย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พอใจแค่นั้น เขาจึงออกจากการเป็นพ่อครัวหลวง ออกเดินทางเพื่อหาสุดยอดการทำอาหาร”
“เป็นไปไม่ได้! คนนั้นคือท่านเหรอ…?”
“ไม่ใช่ข้าหรอก ข้าเป็นผู้ช่วยเขา”
“อะ… อะไรนะ…?”
“ยังไงก็ตาม… ข้าช่วยเจ้าได้ ข้ารู้เมนูที่จะทำให้เจ้าชนะการแข่ง แต่ขอเตือนไว้ก่อน : เมนูนี้เสี่ยงต่อชีวิตเจ้าด้วย”
“ได้โปรด! บอกข้าเถอะ! ข้า… ข้าไม่กลัวความตายหรอก!”
“อาหารจานนั้นก็คือ Baphomet Head Broth and Rice”

Baphomet?! งานนี้มีเจ็บหนัก

“ได้โปรดบอกข้าเถอะ… ข้าจะทำมันได้อย่างไร?”
“อย่างแรก เจ้าต้องปราบ Baphomet ใน Prontera Maze ทุกครั้งที่เจ้าปราบมันได้จะมีโอกาสหนึ่งในหมื่นที่จะได้ Baphomet Helm จากนั้น… เจ้าต้องหาผู้หญิงที่น่าสนใจสักคน แต่ไม่โป๊เกินไปอายุประมาณยี่สิบปี สวมมันไว้ห้าชั่วโมง จากนั้นเอาหมวกนั้นไปต้มในน้ำเดือด 97.9 องศาเซลเซียส อีก 21 ชั่วโมง โรยด้วยเกลือและพริกไทยเพื่อเพิ่มรสชาติ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวและเส้นหมี่”

Orleans ยืนนิ่งสักพักแล้วก็เอ่ยขึ้น

“บัดซบ! นั่นไม่มีทางเป็นไปได้! ข้าจะหาผู้หญิงแบบนั้นได้อย่างไร? ข้าว่า… ข้าคงทำมันไม่ได้แน่นอน!”
“ก็ได้… มันขึ้นอยู่กับเจ้า ว่าจะเลือกแบบไหน ยอมกลับบ้านไปทั้งๆ เดินทางมาเพื่อแข่งที่นี่ตั้งไกลน่ะเหรอ?”

เรารู้คำตอบของ Orleans ได้จากฉากที่เปลี่ยนไป เขาใส่เครื่องป้องกันเต็มยศยืนอยู่หน้า Prontera Maze ในมือถือดาบและกำลังเผชิญหน้ากับฝูง Side Winders และฝูง Hunter Flies

“ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า! ไปซะ!”

เขาฟาดดาบลงพื้นและเกิดสายฟ้ากระจายไปทั่ว เรารู้ว่ามันคงไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะมีพลังแบบนั้น แต่เพราะนี่คือเรื่องแนวแฟนตาซี และเขาก็ฝ่าเข้าไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงห้องที่ Baphomet อยู่

“Baphomet ต้องอยู่ข้างในแน่เลย!”

เขาค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องนั้น เตรียมพร้อมสู้เต็มที่ เมื่อเข้ามาถึงเขากลับพบหญิงสาวยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ศพ Baphomet แสงแดดส่องผ่านต้นไม้ลงมาตรงใบหน้าของเธอ Majestic Baphomet Helm วางตกอยู่ที่ข้างเท้าของเธอ

“ไม่มีทาง… เธอจัดการกับ Baphomet ได้จริงๆ เหรอเนี่ย? เดี๋ยวก่อน! นั่นมัน… Majestic Baphomet Helm นี่นา!”

Orleans ยืนอึ้งในความน่ารักของเธอ ซึ่งอายุของเธอราวๆ ยี่สิบปี และเธอก็เอ่ยทัก

“เจ้าเป็นนักผจญภัยเหรอ?”

เสียงเธอนุ่มนวลและไพเราะ Orleans พยักหน้าช้าๆ– ถ้าเป็นความฝันเขาคงไม่อยากที่จะตื่น

“เอ่อคือ… คุณพอจะมี Butterfly Wing สำรองไหม? ฉันหลงในป่านี้มากว่าห้าชั่วโมงแล้ว…”

Orleans พยักหน้าและคิดขึ้นได้ทันที ดวงตาเปล่งประกายและยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ข้าว่าเราพอมีทางที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้นะ แต่ก่อนอื่น เจ้าจะไม่สวมหมวกนั่นก่อนเหรอ…?”

– โปรดติดตามตอนต่อไป

…น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องจบเท่านี้ เพราะฉะนั้นแยกย้ายไปทำอาหารกันได้แล้วค่ะ

 

เควสทำอาหาร Cooking Quest

เงื่อนไข: Base Lv.50 ขึ้นไป และต้องสวมใส่ Chef Hat (เมื่อคุยกับ Charl Orleang)
สิ่งที่ต้องใช้ในการทำเควส: วัตถุดิบในการทำอาหาร
สิ่งที่ได้รับจากการทำเควส: Cookbook01 1 ea, Outdoor Cooking Kits 10 ea, Indoor Cooking Kits 10 ea, Traditional Rice Cake 1 ea
หมายเหตุ: หากเรามีหนังสือและอุปกรณ์ทำอาหารอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำเควสนี้ก็สามารถทำอาหารได้เลยจ้า / เควสนี้ไม่เกี่ยวกับอาหาร Status 20 ซึ่งเป็นของ Genetic ค่ะ

  1.  ไปยังปราสาทเมือง Prontera เข้าวาปแรกทางซ้ายจะเจอครัว
  2. คุยกับ Madelen Shoo เลือก ข้าต้องการเรียนด้วย
  3. สวม Chef Hat จากนั้นคุยกับ Charl Orleang เขาจะสุ่มชื่ออาหาร Lv.1 มาให้เรา 1 ชนิด ซึ่งเราต้องไปเตรียมวัตถุดิบมาให้
  4. เมื่อนำวัตถุดิบดังกล่าวมา เขาจะสาธิตการทำอาหารให้ดู (จะได้รับอาหารชนิดนั้น100%)
  5. คุยกับ Madelen Shoo อีกครั้ง เธอจะให้ Cookbook01 และ Outdoor Cooking Kits 10 ea (นอกจากนี้เราสามารถมาซื้ออุปกรณ์ทำอาหารกับเธอได้แล้ว)
  6. ทำอาหาร Lv.1 ให้ครบทุกชนิด โดยแต่ละชุดประกอบด้วย…
  7. คุยกับMadelen Shoo เลือกได้โปรด ตัดสินการทำอาหารของข้าที เธอจะแพ็คอาหารให้เป็น Food Package เพื่อนำไปให้เพื่อนเธอช่วยตัดสิน
  8. นำ Food Package ไปให้ Village Servant ใน Payon พิกัด 209, 127 เลือก ข้ามีบางอย่างจาก Prontera มาให้ท่าน จากนั้นเขาจะให้ Traditional Rice Cake 1 ea
  9. กลับไปหาMadelen Shoo จะได้รับIndoor Cooking Kits 10 ea

*หลังจากนี้เราสามารถคุยกับ Charl Orleang เพื่อแลกเปลี่ยน Cookbook ในช่วง Lv.1-5 (ต้องนำเล่มเดิมไปคืนด้วย ดังนั้นเก็บให้ดีๆนะ) ส่วน Lv.6-10 สามารถหาได้จาก Monster ค่ะ*

ของแถม บางคนอาจจะคุ้นๆชื่อเชฟคนนี้ เรามีนิยายของเซฟ Charles Orleans(ชื่อในเควสน่าจะเพี้ยนไปหน่อย)มานำเสนอค่ะ ซึ่งปกติสามารถอ่านได้จากหนังสือ Chef King Orleans Vol.1 ที่ดรอปจาก Cookie ตัวสีเขียว

Chef King Orleans Vol.1

  Hide Spoiler

Master Chef Orleans

วันที่ XX เดือน XX : การแข่งขันทำอาหารที่พระราชวัง Prontera

Charles Orleans, ชายวัย 17 ปี
เขามาจาก Payon มาอาศัยอยู่ในเมืองหลวงด้วยระยะทางอันแสนไกล เพื่อที่จะเข้าแข่งขันทำอาหารในพระราชวัง Prontera ในไม่กี่วันข้างหน้า

“Gee wilikers เมืองนี้ใหญ่เป็นบ้าเลย! ไปกันเถอะ PiPi!”

อืม คุณอาจสงสัยในคำพูดบางคำในบทสนทนาที่บอกว่า “Gee wilikers ” หรือชื่อหมาของเขา PiPi ไหม? เขาเป็นตัวละครหลักในการ์ตูนยอดนิยมในหมู่วัยรุ่น ซึ่งเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเหมือนกัน

“โอ้ ดูสิว่าใครมา? เจ้าใช่ Charles Orleans ไหม?”
“โอ้ Mr. Andrei!”

อีกครั้งที่เป็นบทสนทนาจากการ์ตูน: ตัวละครหลักของเรื่องพบเพื่อนเก่าทันทีที่เดินเข้าสู่เมือง คนเหล่านั้นล้วนแต่ชื่อเจ๋งๆ เช่น Richter, Trevor, Grant, หรือ Julius เสียดายที่เราใช้ชื่อ Andrei แต่ก็ไม่ได้มีคำอธิบายอะไรที่ชัดเจน

“โอ้ว เป็นปีแล้วใช่ไหมเนี่ย? เจ้าก็เข้าแข่งทำอาหารด้วยเหรอ? พ่อครัวมีฝีมือทั่วโลกจะมาร่วมงานนี้ แต่ข้าคิดว่าเจ้ามีโอกาสนะ! ตั้งแต่เด็กแล้วเจ้าก็ทำอาหารเก่งมาตลอด!”

คุณเห็นนั่นไหม? คุณเห็นไหมว่าอะไรเพิ่งเกิดขึ้น? ชายคนนี้พิเศษ เขารู้ว่าเขาควรทำอะไร เขารับหน้าที่เปิดเผยภูมิหลังของตัวละครหลัก และเหตุการณ์นี้ก็เป็นส่วนช่วยทำให้เขาได้มีโอกาสพูดออกมา แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ Andrei ก็ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อส่วนนี้ แต่ก็น่าแปลกที่ทำไมเขาถึงรู้ว่า Charles Orleans มาทำอะไรที่เมือง Prontera: มันก็คือส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องทั้งหมด

“ใช่ ข้าต้องการมาเพื่อเป็นพ่อครัวประจำพระราชวัง!”

ใช่ ใช่ ตัวละครหลักจะต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งเป็นตัวละครประเภทหนึ่งของเรื่อง มันคงจะดีถ้าให้เขาเป็นคนที่ขี้กลัวหวาดระแวง แน่นอนว่าคนทั่วไปก็คงไม่สนใจชายคนนี้ และก็คงจะไม่ถามเรื่องการแข่งขันทำอาหารเมื่อเจอกันครั้งแรกด้วย…

“ชายหนุ่มคนนั้น? พ่อครัวของพระราชวังใช่ไหมนั่น?”
“เป็นไปไม่ได้… เขาไม่เคยทำแบบนี้!”
“เขายังเด็กอยู่เลย ไม่ห่างจากลูกชายข้าสักเท่าไหร่!”
“ประเทศคลั่งฟักทองและคลั่งความคิดแปลกๆ…”
“ฮาๆ! เจ้าแน่แค่ไหนกันที่จะทำตามความฝันของเจ้า! เลิกฝันเถอะ กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวดีกว่า!”

เสียงของหัวหน้ากองทหารก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงซุบซิบต่างๆ ใช่แล้วมันเป็นเวลาที่ข้าศึกกำลังจะบุก!”

“ฮึม”

พวกเขามักจะให้ตัวเองดูดีด้วยการพูดเหยียดหยามคนอื่น งั้นเหรอ?

“ฮึม มันคงทำให้ข้าแปลกใจมากถ้าเจ้าผ่านรอบแรกได้… Orleans”

ในระหว่างที่กำลังหาที่มาของต้นเสียง ทันใดนั้น –วูบบบบ!– แสงไฟฉายจ้าและพิณที่สวยงามก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่สูงกว่าปกติประมาณ 1.3 เท่าของเด็กทั่วไป

ตัวละครเด็กผู้ชายที่สูงและหน้าตาดีมักจะมีความสัมพันธ์ต่อตัวละครหลัก ส่วนมากมักจะเป็นเพื่อนสนิท ในเรื่องราวของวัยรุ่นคุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ของตัวละครได้ด้วยอายุ เพศและหน้าตา ส่วนคนที่แก่กว่าก็มักจะเป็นพ่อหรือพี่ชายหรือเพื่อนรักของพ่อเป็นอย่างน้อย ส่วนหญิงสาวก็มักจบลงด้วยการพบรักกับพระเอก แม้ว่าเริ่มด้วยการเป็นศัตรูกัน ยกเว้นหญิงสาวคนนั้นไม่สวย : ส่วนผู้ชายที่หน้าตาไม่ดีมักจะเป็นศัตรูของพระเอกและจบลงด้วยการถูกพระเอกฆ่า

อย่างไรก็ตามคู่แข่งปรากฏตัวแล้วและ Orleans ก็

“Kiel? Kiel นี่เจ้าจริงๆ เหรอ? ข้าคิดว่าเจ้าตายแล้ว!”

ในขณะเดียวกัน คนทั่วไปก็เริ่มพูดคุยกันเองทำให้เรามีเวลาพูดคุยถึงความเป็นมาของ Kiel

“Kiel? เขาจะกลายเป็นตำนาน Kiel ไหม?”
“Kiel? ใช่พ่อครัวหลวงที่อายุน้อยสุดใช่ไหม?”
“ได้ยินว่าไม่เคยมีใครรอดจากการแข่งทำอาหารกับเขา! พวกเขาเรียกกันว่าพ่อครัวปีศาจ!”
“ไม่ใช่หายสาบสูญไปกับโศกนาฏกรรมเมื่อปีก่อนหรอกหรือ?”

จากนั้น Kiel ก็เริ่มคุกคามพระเอกด้วยบทสนทนา

“ฮึม! สิบปี่ผ่านไปเจ้าก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ Orleans!”
“K-Kiel…!”
“เจ้าจะแพ้การแข่งขันครั้งนี้เพราะผู้ชนะคือข้า! เลิกล้มตอนนี้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสจะดีกว่า!”

แม้ว่าคำพูดจะรุนแรง แต่ Orleans ก็ไม่แสดงอาการโกรธแค้นมากมายเพราะเป็นตัวละครพระเอก แน่นอนเพราะเขาเป็นคนดีจึงไม่คิดคำพูดมาโต้เถียง

“นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? ที่เจ้าโกงจนได้เป็นพ่อครัวหลวง?! บอกมาสิว่าเป็นเรื่องโกหก Kiel!”
“เฮอะ ข้าไม่สนใจหรอก แค่ได้ในสิ่งที่ต้องการก็พอ”

พวกเราต้องการให้เชื่อว่า Kiel เป็นคนไม่ดีเพราะด้วยลักษณะของตัวละคร แต่จะให้ค่อยๆ รู้เรื่องเกี่ยวกับการชนะการแข่งขันในครั้งนั้น รายละเอียดในอดีต บางทีอาจเป็นเรื่องของการเสียคนรักไป ในบางทีเราอยากเปิดตัว Kiel ให้เก่งกว่าพระเอกอย่างน้อยก็ก่อนที่พระเอกจะผ่านการฝึกฝน

“ไม่ว่าข้าจะชนะด้วยวิธีใดก็ตาม ประเด็นอยู่ที่ผู้ชนะ คือ เจ้าหรือข้า?”
“Kiel!”
“ถ้าเจ้าไม่ยอมรับเรื่องที่ข้าเป็นพ่อครัวหลวงที่เก่งกว่า ก็พิสูจน์ด้วยตัวเองสิ ข้าหวังว่าจะได้เจอเจ้าในการแข่งสามวันข้างหน้าถ้าเจ้ายังอยู่ถึงนะ หึหึ เจ้าจะเอาเมนูอะไรมาชนะข้าได้? Hahahahahaha!”

ทุกคนมักจะเกรงกลัวและไม่ชอบนิสัยของ Kiel เช่นเดียวกับ Orleans และ PiPi หมาของเขา ตอนนี้ไฟในการต่อสู้ของ Orleans ได้ลุกโชนขึ้นแล้ว

ฉากต่อไป พวกเรามาอยู่ที่ห้องของ Kiel เขาอยู่คนเดียวและมองออกไปนอกหน้าต่าง มือถือแก้วไวน์เอาไว้ ถึงแม้จะอายุเพียง 17 แต่ดื่มได้เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น

“Orleans… ข้อรอคอยเวลานี้มานานแล้ว เจ้าเป็นคนเดียวที่เป็นคู่แข่งของข้า ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะเป็นสุดยอดพ่อครัวได้ถ้าไม่ชนะเจ้าก่อน สามวัน… มันช่างยาวนานนัก อาหารที่เจ้าทำมันเกิดมาจากจิตใจที่สะอาด แต่ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นถึงพลังของอาหารที่เกิดจากความโดดเดี่ยว!”

ตอนนี้เราให้ Kiel และ Orleans มีฝีมือในการทำอาหารเท่ากัน: มันเป็นแค่เรื่องความคิดที่ดีที่สุดในครัวเท่านั้นยังคงมีคำถาม : Kiel หมายถึงอะไรกับพลังจากความโดดเดี่ยว? อีกครั้งที่ตัวละครดูน่ากลัว แต่นั่นก็ทำให้เรื่องราวดำเนินต่อไปได้

ตัดฉากกลับมาที่ Orleans ที่กำลังกลัดกลุ้มเหมือนตัดสินใจบางอย่างอยู่

“ปลา? เนื้อ? ผัก? ไม่ๆ นั่นธรรมดาไป ข้าคงไม่ชนะแน่ถ้าใช้แค่ส่วนผสมแค่นั้น แล้วจะทำอะไรดีนะ?”

ทันใดนั้นก็มีเสียงตอบกลับมา

“เจ้าอยากได้เมนูพิเศษสำหรับการแข่งนี้เหรอ?”

Orleans หันไปมองที่มาของเสียง เขาก็พบชายแก่ยืนถือขวดเหล้าไว้ในมือ

“ผู้เฒ่า… ท่านเป็นใครเหรอครับ?”
“เมื่อห้าสิบปีก่อน มีเด็กหนุ่มที่มีความสามารถด้านการทำอาหารและก็ชนะการแข่งพ่อครัวหลวงด้วย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พอใจแค่นั้น เขาจึงออกจากการเป็นพ่อครัวหลวง ออกเดินทางเพื่อหาสุดยอดการทำอาหาร”
“เป็นไปไม่ได้! คนนั้นคือท่านเหรอ…?”
“ไม่ใช่ข้าหรอก ข้าเป็นผู้ช่วยเขา”
“อะ… อะไรนะ…?”
“ยังไงก็ตาม… ข้าช่วยเจ้าได้ ข้ารู้เมนูที่จะทำให้เจ้าชนะการแข่ง แต่ขอเตือนไว้ก่อน : เมนูนี้เสี่ยงต่อชีวิตเจ้าด้วย”
“ได้โปรด! บอกข้าเถอะ! ข้า… ข้าไม่กลัวความตายหรอก!”
“อาหารจานนั้นก็คือ Baphomet Head Broth and Rice”

Baphomet?! งานนี้มีเจ็บหนัก

“ได้โปรดบอกข้าเถอะ… ข้าจะทำมันได้อย่างไร?”
“อย่างแรก เจ้าต้องปราบ Baphomet ใน Prontera Maze ทุกครั้งที่เจ้าปราบมันได้จะมีโอกาสหนึ่งในหมื่นที่จะได้ Baphomet Helm จากนั้น… เจ้าต้องหาผู้หญิงที่น่าสนใจสักคน แต่ไม่โป๊เกินไปอายุประมาณยี่สิบปี สวมมันไว้ห้าชั่วโมง จากนั้นเอาหมวกนั้นไปต้มในน้ำเดือด 97.9 องศาเซลเซียส อีก 21 ชั่วโมง โรยด้วยเกลือและพริกไทยเพื่อเพิ่มรสชาติ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวและเส้นหมี่”

Orleans ยืนนิ่งสักพักแล้วก็เอ่ยขึ้น

“บัดซบ! นั่นไม่มีทางเป็นไปได้! ข้าจะหาผู้หญิงแบบนั้นได้อย่างไร? ข้าว่า… ข้าคงทำมันไม่ได้แน่นอน!”
“ก็ได้… มันขึ้นอยู่กับเจ้า ว่าจะเลือกแบบไหน ยอมกลับบ้านไปทั้งๆ เดินทางมาเพื่อแข่งที่นี่ตั้งไกลน่ะเหรอ?”

เรารู้คำตอบของ Orleans ได้จากฉากที่เปลี่ยนไป เขาใส่เครื่องป้องกันเต็มยศยืนอยู่หน้า Prontera Maze ในมือถือดาบและกำลังเผชิญหน้ากับฝูง Side Winders และฝูง Hunter Flies

“ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า! ไปซะ!”

เขาฟาดดาบลงพื้นและเกิดสายฟ้ากระจายไปทั่ว เรารู้ว่ามันคงไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะมีพลังแบบนั้น แต่เพราะนี่คือเรื่องแนวแฟนตาซี และเขาก็ฝ่าเข้าไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาถึงห้องที่ Baphomet อยู่

“Baphomet ต้องอยู่ข้างในแน่เลย!”

เขาค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องนั้น เตรียมพร้อมสู้เต็มที่ เมื่อเข้ามาถึงเขากลับพบหญิงสาวยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ศพ Baphomet แสงแดดส่องผ่านต้นไม้ลงมาตรงใบหน้าของเธอ Majestic Baphomet Helm วางตกอยู่ที่ข้างเท้าของเธอ

“ไม่มีทาง… เธอจัดการกับ Baphomet ได้จริงๆ เหรอเนี่ย? เดี๋ยวก่อน! นั่นมัน… Majestic Baphomet Helm นี่นา!”

Orleans ยืนอึ้งในความน่ารักของเธอ ซึ่งอายุของเธอราวๆ ยี่สิบปี และเธอก็เอ่ยทัก

“เจ้าเป็นนักผจญภัยเหรอ?”

เสียงเธอนุ่มนวลและไพเราะ Orleans พยักหน้าช้าๆ– ถ้าเป็นความฝันเขาคงไม่อยากที่จะตื่น

“เอ่อคือ… คุณพอจะมี Butterfly Wing สำรองไหม? ฉันหลงในป่านี้มากว่าห้าชั่วโมงแล้ว…”

Orleans พยักหน้าและคิดขึ้นได้ทันที ดวงตาเปล่งประกายและยิ้มอย่างมีเลศนัย

“ข้าว่าเราพอมีทางที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้นะ แต่ก่อนอื่น เจ้าจะไม่สวมหมวกนั่นก่อนเหรอ…?”

– โปรดติดตามตอนต่อไป

…น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องจบเท่านี้ เพราะฉะนั้นแยกย้ายไปทำอาหารกันได้แล้วค่ะ