จาก : ซอเซอรุจ
เรามีแผนจะขยาย Max level 175 > 185 เร็ว ๆ นี้ ซึ่งได้อยู่ในแผน การอัปเดทของปี 2022 มาตั้งแต่แรกขอโทษด้วยนะที่ปิดบังเอาไว้ การอัปเดทนี้จะเกิดขึ้นใน Q3 ปีนี้ระหว่างนี้ก็เอาข้อมูลที่จะมีการถูกปรับเปลี่ยนในเนื้อหานี้ไปอ่านกันพลาง ๆ ก่อนนะ

ขยายเลเวลอาชีพ Class 3

ขีดจำกัดเลเวลสูงสุดของอาชีพ Class 3 จะได้ถูกขยายไปจนถึง Base Lv. 185 และ Job Lv. 65
นอกจากการขยายเลเวลแล้ว ยังมีการปรับขยายเลเวลของสกิลส่วนหนึ่ง
และตาราง EXP ของอาชีพ Class 3 ที่มีเลเวลตั้งแต่ 100 – 175 นั้นยังถูกปรับเปลี่ยนอีกด้วย

โดยหลังจากเปลี่ยนอาชีพ จะมีการปรับลด EXP ที่จำเป็นในการอัปเลเวล (รวมถึง Job Lv.) ในช่วงต้นของเลเวล 100
เพื่อให้รู้สึกถึงความสามารถของ Class 3 อย่างรวดเร็วขึ้น

<เมื่อ Base Lv. ขยายจนถึง 185 แล้ว Job Lv. ก็ขยายจนถึง 65 เช่นกัน!>

 

การเปลี่ยนแปลงสกิลตามการขยายเลเวลของ Class 3

ในการขยายเลเวลครั้งนี้ ได้มีการพัฒนาและขยายเลเวลของสกิลส่วนหนึ่ง

1. Rune Knight

<Enchant Blade>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
MATK เพิ่มเติม = [(เลเวลสกิล x 20 + 100) x (BaseLvของร่าย /150) ]+ INTของผู้ร่าย
– เปลี่ยนแปลงปริมาณ SP ที่ถูกใช้ในแต่ละเลเวลของสกิล

 

 

<Sonic Wave>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– ปรับการคำนวณเพิ่ม Damage ให้เหมาะสม Damage = ATK { ( (เลเวลสกิล + 7 ) x 100 ) x (1+ [(BaseLVของผู้ร่าย -100 ) / 100 ]) } % 
– เพิ่มโบนัส HIT ตามเลเวลของสกิล ปรับ HIT เท่ากับ (เลเวลสกิล * 7)
– เปลี่ยนแปลงปริมาณ SP ที่ถูกใช้ในแต่ละเลเวลของสกิล

 

2. Royal Guard

<Shield Press>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
สูตรดาเมจ = =ATK [ { (เลเวลสกิล x 200 ) + STR ของผู้ร่าย + น้ำหนักโล่ } x BaseLV ของผู้ร่าย / 100 ] % + (VIT ของผู้ร่าย x ขั้นอัพเกรดของโล่)
– นำผลการติดสถานะผิดปกติ [Stun] ออก
– ปรับการคำนวณเพิ่ม Damage ให้เหมาะสม
– ในการโจมตี 1 ครั้ง ปรับให้แสดง Damage ออกเป็น 5 รอบ

 

 

<Genesis Ray>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– เปลี่ยนจาก Damage (ทางกายภาพ + ทางเวทมนตร์) ธาตุ Holy เป็น สกิลที่มี Damage ทางเวทมนตร์ธาตุ Holy โดยพื้นฐาน
สูตรดาเมจ = MATK [ (เลเวลสกิล x 200 ) x BaseLV ของผู้ร่าย / 100 ]
– ลดเวลา Cooldown, Delay หลังใช้สกิล และระยะเวลาร่ายลง
– เปลี่ยนแปลงปริมาณ HP/SP ที่ถูกใช้ในแต่ละเลเวลของสกิล
– สมาชิกในปาร์ตี้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานะ Banding และผลการเพิ่ม Damage ตามจำนวนการใช้ Banding ในปาร์ตี้จะหายไป

 

 

3. Mechanic

<Power Swing>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
สูตรดาเมจ = ATK [ ((เลเวลสกิล x 100) + 300 ) + { (STR + DEX ของผู้ร่าย ) x BaseLVของผู้ร่าย / 100 } ] %
– ตั้งแต่เลเวล 6 เป็นต้นไป Delay หลังใช้สกิลลดลงครึ่งหนึ่ง

 

 

<Arm Cannon>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 3 เป็น Lv. 5
– ระยะของผลสกิลเพิ่มขึ้นตามเลเวลของสกิล
Skill level 1 : Fix cast 0.6/VCT 1.4/CD 0.15/ACD 1/AOE 3×3/Range cell 9
Skill level 2 : Fix cast 0.4/VCT 1.6/CD 0.20/ACD 1/AOE 3×3/Range cell 9
Skill level 3 : Fix cast 0.4/VCT 1.8/CD 0.30/ACD 1/AOE 5×5/Range cell 11
Skill level 4 : Fix cast 0.2/VCT 2.0/CD 0.46/ACD 1/AOE 5×5/Range cell 11
Skill level 5 : Fix cast 0.2/VCT 2.2/CD 0.65/ACD 1/AOE 7×7/Range cell 13

 

 

4. Genetic

<Cart Tornado Attack>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– เมื่อได้รับผลของสกิล จะไม่ [Knock Back] อีกต่อไป
– เวลา Cooldown ของสกิลคงอยู่ที่ 2 วินาทีทุก ๆ เลเวล
– Delay หลังใช้สกิลเพิ่มขึ้นเป็น 1 วินาที
– ปรับการคำนวณเพิ่ม Damage ให้เหมาะสม
สูตรดาเมจ = ATK [( เลเวลสกิลx 100 ) + (น้ำหนักไอเทมภายในรถเข็น / (150 – Base STR ของผู้ร่าย ) )+ (เลเวลสกิล Cart Remodeling x 50) ] %
– ในการโจมตี 1 ครั้ง ปรับให้แสดง Damage ออกเป็น 3 รอบ

 

 

<Spore Explosion>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– เพิ่มอัตราการสร้างความเสียหายแก่เป้าหมายรอบ ๆ จาก 75% เป็น 100%
– เวลาแสดงผลของระเบิดคงอยู่ที่ 2 วินาทีทุก ๆ เลเวล
– ปรับการคำนวณเพิ่ม Damage ให้เหมาะสม
สูตรดาเมจ = ATK [{(เลเวลสกิล x 150 ) + (200 + INT ของผู้ร่าย ) x BaseLV ของผู้ร่าย / 100 }]%

 

5. Guillotine Cross

<Weapon Blocking>
– หากผลของสกิลทำงาน จะมอบสถานะ “Counter” เป็นเวลา 10 วินาทีให้กับตนเอง

<Counter Slash>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– ปรับให้สามารถใช้สกิลได้อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่อยู่ในสถานะ “Counter” โดยไม่จำเป็นต้องรอเงื่อนไขการใช้สกิลต่อจาก Weapon Breaking
– ปรับการคำนวณเพิ่ม Damage ให้เหมาะสม
สูตรดาเมจ = ATK [{(เลเวลสกิล x 150 ) + 300 } x BaseLVของผู้ร่าย / 120 ]% + ATK [(AGI x 2 ) + (JobLVของผู้ร่าย x 4 ) ] %  
– ตั้งแต่เลเวล 6 เป็นต้นไป ระยะของผลสกิลเพิ่มเป็น 5×5 และ Delay หลังใช้สกิลลดลงครึ่งหนึ่ง

 

 

6. Shadow Chaser

<Fatal Manace>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– เมื่อได้รับผลของสกิล จะไม่ [Teleport] อีกต่อไป
– เมื่อสวมใส่อาวุธประเภท Dagger จะทำการโจมตี 2 ครั้ง
– ตั้งแต่เลเวล 6 เป็นต้นไป ระยะของผลสกิลเพิ่มเป็น 5×5
– ตั้งแต่เลเวล 7 เป็นต้นไป ปรับให้อัตรา HIT เพิ่มขึ้น
– เปลี่ยนแปลงปริมาณ SP ที่ถูกใช้ในแต่ละเลเวลของสกิล
สูตรดาเมจต่อการโจมตี 1 ครั้ง = ATK {(เลเวลสกิล + 1) x 100 x BaseLv ของผู้ร่าย / 100 } %

 

 

<Feint Bomb>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 3 เป็น Lv. 10
– ปรับระยะการเคลื่อนที่ตามเลเวลของสกิล

 

 

7. Warlock

<Freezing Spell>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
สูตรพ้อยท์สะสมสูงสุด = (เลเวลสกิล x 4 ) + (BaseLV ของผู้ร่าย /10 ) + (INT ของผู้ร่าย /10)

<Tetra Vortex>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– นำ Delay หลังใช้สกิลออก
– ตั้งแต่เลเวล 6 เป็นต้นไป ปรับให้โจมตีเป้าหมายและเป้าหมายรอบ ๆ ที่ค้นหาได้ในระยะที่กำหนด
– เนื่องจากสามารถโจมตีเป้าหมายเป็นกลุ่มได้ การคำนวณ Damage ตั้งแต่เลเวล 6 เป็นต้นไปจึงถูกเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสม
Skill level 6 : AOE 3×3/Damge 3200%x4
Skill level 7 : AOE 3×3/Damge 3400%x4
Skill level 8 : AOE 5×5/Damge 3600%x4
Skill level 9 : AOE 5×5/Damge 3800%x4
Skill level 10 : AOE 7×7/Damge 4000%x4

 

 

8. Sorcerer

<Fist Spell>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– ปรับเปลี่ยนระยะเวลาของสกิลตามเลเวลสกิล
– จำนวนครั้งในการโจมตีเพิ่มขึ้น 3 เท่าของเลเวลสกิล

 

 

<Varetyr Spear>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– เปลี่ยนจาก Damage (ทางกายภาพ + ทางเวทมนตร์) ธาตุ Wind เป็น สกิลที่มี Damage ทางเวทมนตร์ธาตุ Wind โดยพื้นฐาน
สูตรดาเมจ = MATK [{ ((เลเวลสกิล Lightning Loader +เลเวลสกิล Striking) x 120 ) + (Int ของผู้ร่าย/ 2 ) x เลเวลสกิล) } x LV ของผู้ร่าย / 100 ] %
– เพิ่มปริมาณ SP ที่ถูกใช้ในแต่ละเลเวลของสกิล
– เพิ่มระยะของผลสกิลสูงสุด
Skill level 1-3 : AOE 3×3/CD 5
Skill level 4-6 : AOE 5×5/CD 5
Skill level 7-9 AOE 7×7/CD 5
Skill level 10 AOE 9×9/CD 5
– ในการโจมตี 1 ครั้ง ปรับให้แสดง Damage ออกเป็น 3 รอบ

 

 

9. Arch Bishop

<Judex>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
MATK = [ { (เลเวลสกิล x 40 ) + 300 } x BaseLVของผู้ร่าย / 100 ] %

 

 

<Renovatio>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 1 เป็น Lv. 4
– เพิ่มอัตราการฟื้นฟู HP ทุก ๆ 5 วินาทีตามเลเวลของสกิล
ปริมาณฟื้นฟูทุก ๆ 5 วินาที : (เลเวลสกิล+4)%
– เพิ่มระยะเวลาของสกิลตามเลเวลสกิล
ระยะเวลา : (เลเวลสกิล*30)+60) วินาที
– ปรับเป้าหมายที่ได้รับผล > ตัวผู้ใช้และสมาชิกปาร์ตี้ทั้งหมดในหน้าจอ (ขอบเขต 31×31)

 

 

10. Sura

<Fallen Empire>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– ลดปริมาณ SP ที่ถูกใช้ในแต่ละเลเวลของสกิล
– ตั้งแต่เลเวล 6 เป็นต้นไป ลดปริมาณการใช้ Spirit Sphere จาก 2 เป็น 1
– ปรับการคำนวณเพิ่ม Damage ให้เหมาะสม
สูตรดาเมจ = ATK [ (เลเวลสกิล x 250 + 100) x BaseLvของผู้ร่าย / 100] % + [ (ค่าการปรับขนาดเป้าหมาย + เลเวลสกิล – 1) x STR ของผู้ร่าย] + [ (น้ำหนักปัจจุบันของเป้าหมาย x DEX ของผู้ร่าย / 120) ]
หมายเหตุ
*** ค่าการปรับขนาดเป้าหมาย ขนาดเล็ก = 2 / ขนาดกลาง = 4 / ขนาดใหญ่ = 6
*** น้ำหนักปัจจุบันของเป้าหมาย ในกรณีที่เป็นมอนสเตอร์ จะเท่ากับ (เลเวลมอนสเตอร์ x 50)

 

 

<Knuckle Arrow>
สกิลนี้ เป็นสกิลโจมตีทางกายภาพระยะไกล
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
– เพิ่มปริมาณ SP ที่ถูกใช้ในแต่ละเลเวลของสกิล
– ปรับระยะของการใช้สกิล และระยะ [Knock Back] เมื่อได้รับผลของสกิล
– ตั้งแต่เลเวล 6 เป็นต้นไป ไม่มีการใช้ Spirit Sphere
สูตรดาเมจ = ATK [ (เลเวลสกิล x 100 + 500 ) x BaseLv ของผู้ร่าย / 100 ] %

สูตรดาเมจ Knock-back = ATK [(เลเวลสกิล x 150 ) + (1000 x น้ำหนักปัจจุบันของเป้าหมาย / น้ำหนักสูงสุด ) + (เลเวลเป้าหมาย x 5 ) x (BaseLv ของผู้ร่าย/ 150 )] %

 

 

11. Ranger

<Aimed Bolt>
– เพิ่มระยะเวลาร่ายแบบคงที่เป็น 1 วินาที และลดระยะเวลาร่ายแบบแปรผันครึ่งหนึ่ง
– เพิ่มเวลา Cooldown ของสกิล และ Delay หลังใช้สกิล 1 วินาที
– ปรับให้ปริมาณ SP ที่ถูกใช้คงอยู่ที่ 40 หน่วยทุก ๆ เลเวลของสกิล
– ปรับการคำนวณลด Damage ให้เหมาะสม
ATK [ { (เลเวลสกิล x 20 ) + 500 } x (BaseLV / 100 ) ] %
– ปรับให้โจมตีเต็มจำนวนครั้งแม้ว่าเป้าหมายจะไม่ได้อยู่ในสถานะเคลื่อนที่ไม่ได้
ถ้าใช้ Aimed Bolt จำนวนครั้งในการโจมตีจะถูกเพิ่มตามขนาดของเป้าหมาย(มอนสเตอร์)
– มอนสเตอร์ขนาดเล็ก : 2-3 ครั้ง
– มอนสเตอร์ขนาดกลาง : 3-4 ครั้ง
– มอนสเตอร์ขนาดใหญ่ : 4-5 ครั้ง
เมื่อใช้สกิล ถ้าลูกธนูไม่เพียงพอต่อจำนวนครั้งในการโจมตีที่ถูกเพิ่ม จะโจมตีพลาด (ขึ้นเป็น miss) โดยอัตโนมัติ

 

 

<Trap Research>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10

 

 

12. Wanderer & Minstrel

<Metalic Sound>
– เพิ่มเลเวลสูงสุดจาก Lv. 5 เป็น Lv. 10
สูตรดาเมจ = MATK [ {(เลเวลสกิล x 120 ) + (สกิล Lesson x 60) } x BaseLV ของผู้ร่าย / 100 ] %
– ปรับให้สร้างความเสียหายเพียง 2 ครั้ง
– ลดปริมาณ SP ที่ถูกใช้ในแต่ละเลเวลของสกิล
– ปรับให้เวลา Cooldown ของสกิลคงอยู่ที่ 2.5 วินาที
– นำ Delay หลังใช้สกิลออก
– นำผลของสกิลที่ลด SP ของเป้าหมายออก

 

 

<Severe Rainstorm>
– ปรับให้ใช้สกิลได้เมื่อสวมใส่อาวุธประเภท Whip และ Instrument
– เพิ่ม Damage เมื่อใช้อาวุธประเภท Whip และ Instrument ให้มากกว่าเมื่อใช้อาวุธประเภท Bow

สูตรดาเมจ = ATK [{ (DEX ของผู้ร่าย + AGI ) x ( เลเวลสกิล / 5 ) } x BaseLV ของผู้ร่าย / 100 ] %

***สูตรดาเมจเมื่อติดตั้ง Whip & Instrument = ATK [{ ( DEX ของผู้ร่าย + AGI ) x ( เลเวลสกิล / 3 ) } x BaseLV ของผู้ร่าย / 100 ] %

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *